เตรียมยังไง ไม่ให้สับสน
หลังจากที่เรารู้ตัวเองว่าต้องไปสอบเอาใบประกาศ A1 ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าติดตามคู่สมรส ทำงาน หรือ ไปเรียนต่อ ที่ประเทศเยอรมนี ก็ตาม มาถึงตรงนี้แล้ว เรา จำเป็นจะต้องหาที่เรียน ที่เขาสอนภาษาเยอรมันกัน และถ้าให้ดีต้องมีการติวข้อสอบ A1 A2 B1 ด้วย มันจะเวิร์คมาก นักเรียนทุกๆคนคงหาสถานที่เรียน หลายๆ ที่อยู่เช่นกัน เพราะยุคสมัยนี้มีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการสอนออนไลน์ หรือไปเรียนตามที่สถาบันของเขาเองก็ตาม บางครั้งนักเรียนจะสับสนและยังตัดสินใจไม่ถูก ว่าจะไปเรียนที่ไหนดี แต่ถ้าให้ผมแนะนำ เราควรอ่านรีวิว ของนักเรียน ที่เคยไปเรียนมาก่อนหน้านั้น ว่าเป็นยังไง หรือสอบถามเพื่อนๆของเราเองที่เคยไปเรียนมา มันอาจจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย แล้วเราค่อยๆ คิดตัดสินใจเอาเองอีกทีแล้วกันนะครับ
เพราะในการหาครูที่เข้ากับจริตของเราบวกกับการเรียนการสอนที่ดีและเอาใจใส่ จะทำให้เรามีชัยไปกว่าครึ่งแล้วครับ จะให้ดีทุกเรื่องและทุกอย่างคงจะเป็นไปไม่ได้ทั้งหมด เราต้องรู้จักในการปรับตัวเองให้ได้ ไม่เราก็เขา (ครู) นั้นและครับ และสุดท้ายแล้วมันจะไปได้สวยด้วยกันทั้งคู่ ถ้ามีใครบ้างคนยังยึดติดกับตัวตนอยู่ ภาษาพระเขาเรียกว่า “อัตตา” ยึดในตัวกูของกู ประมาณว่าจะเอาแบบนี้อย่างนี้ในความคิดตัวเองที่ยังเห็นผิดอยู่ ไม่สนว่าผู้ใดจะเป็นเช่นไร อย่างเนียเขาเรียกว่า เอาแต่ใจตัวเอง ไม่สนใจในความคิดของผู้อื่น ที่ได้ตักเตือนชีแนะนำไปก่อนหน้านั้นอย่างถูกวิธี แต่ถ้าไม่มีใครยอมใครก็เละด้วยกันทั้งคู่ หวังว่าทุกท่านคงไม่เป็นแบบนี้และเจอแบบนี้นะครับ
และอย่าลืมดูเรื่องของ ค่าใช้จ่ายด้วย เพราะหลายๆที่ ราคาก็จะไม่เท่ากันอยู่แล้ว บ้างที่ราคาจะแรงมากๆ ผมมองว่ามันเกินไปและแพงกว่าภาษาอื่นๆอีกด้วยซ้ำ ฝากเอาไว้ให้คิดดีๆด้วยนะครับ และอย่าลืมบวก ค่าเดินทาง อาหารการกินที่พักอาศัยด้วยเช่นกันนะ นักเรียนบ้างท่านอาจเดินทางไกลมาจากต่างจังหวัดก็มี ทุกอย่างมันมีต้นทุนอยู่แล้วนะครับ ถ้าเราคิดจะย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในประเทศเยอรมัน ด้วยเหตุผลอนาคตของตัวเราเองที่จะต้องกาวเดินต่อไป ควรที่จะต้องวางแผนดีๆ อย่าลืมว่าทุกชีวิตมันคือการเดินทางไม่ไกลก็ใกล้
เก็บคำศัพท์
เอาไว้แต่เนินๆเลย ยิ่งเร็วยิ่งดี บ้างทีครูที่โรงเรียนเขาอาจไม่ได้บอกนักเรียนหรืออาจจะมองข้ามไปก็ได้ผมไม่รู้นะครับ แต่ถ้าให้ผมแนะนำ ผมก็จะบอกเลยว่ามันสำคัญมาก ไอ้พวกคำศัพท์เนียให้เราเก็บและท่องจำเอาไว้ดีๆเลยครับ เพราะมันจะไปมีส่วนร่วมกับ การ “ฟัง อ่าน เขียน พูด” แน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้ ยังไงมันจะมาแน่นอนไม่เร็วก็ช้า โดยในความคิดผมเราควรที่จะจดบันทึกในเล่มสมุดที่เราเตรียมเอาไว้ มันจะดีที่สุด แล้วเวลาว่างๆ ให้เราต้องค่อยๆท่องจำเอาทุกวันซ้ำๆเดิมๆ
เพราะแค่ท่องจำวันเดียวมันยังคงจำไม่ได้ พอได้แล้ว เดียวเราจะเริ่มขยายความรู้ไปได้เร็วอย่างแน่นอนในวงกว้าง สุดท้ายแล้วมันจะเริ่มเรียนสนุก เพราะในการเข้าใจนี้เอง ที่เรียนกันไปแล้วท้อแท้เร็ว มันก็มาจากเหตุผลที่เราไม่ได้เข้าใจคำศัพท์นั้เองครับ
หาเวลาทบทวน
เรียนมาถึงตรงนี้แล้ว ตัวเราเองรู้ดีที่สุดและว่าเราด้อยส่วนไหนของข้อสอบ มันก็จะมี 4 พวกเนียและ ฟัง อ่าน เขียน พูด สมมุติว่าเรามีปัญหาเกี่ยวเรื่องการ ฟัง เราควรที่จะไปทำเรื่องของการฟังให้มันดีและเข้าใจไปเลยในฉบับของเรา อย่าเพิ่งไปดู อ่าน เขียน พูด นะครับ เอาฟังให้มันรู้เรื่องก่อน เอาให้จบไปเลย ทำที่ละอย่าง ไม่อย่างนั้นแล้วมันจะมั่ว ประมาณว่าอันนี้ยังไม่เรียบร้อยเลยไปทำอันใหม่สะแล้ว
พอเข้าใจผมอธิบายนะครับ ทำอันยากๆ ก่อน ง่ายๆ เอาไว้ที่หลังเสมอ ทุกอย่างมันจะต้องใช้เวลาแต่ก็คงไม่นานเกินรอ ขอให้อย่าขี้เกียจ คิดเสียว่าก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ไม่อร่อยแต่มันก็อิ่มท้องอยู่ดีนั้นและครับ เหมือนการเรียนรู้อะไรบ้างอย่างที่เราไม่อยากจะไปรู้มันเลย แต่สุดท้ายก็จะเข้าใจมันเองแบบงงนั้นและครับ
ทำตัวอย่างข้อสอบ A1
ถ้าให้ดีต้องทำหลายๆ ชุดด้วยกัน ผมไม่แน่ใจว่าทางโรงเรียนที่เขาสอนเราอยู่นั้น มีข้อสอบกี่ชุดกันแน่ ก็นั้นและครับมีหลายๆชุดยิ่งดี ทำเยอะดีกว่าทำน้อย ถ้าให้ผมแนะนำ ก็ต้องถึง 10 ชุด อย่างต่ำนะครับ ไม่ว่าจะเป็น ฟัง อ่าน เขียน พูด เราควรที่จะทำให้ดีทั้งหมด เพราะกันเอาไว้ก่อน เพราะถ้าเราสอบไม่ผ่านขึ้นมา เรื่องมันจะยาวแล้วละครับ ยิ่งกว่าหางว่าวก็ว่าได้ คือว่าเราต้องไปเสียเงินสอบใหม่อีก ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆนะครับ เดียวนี้ค่าสมัครสอบขึ้นทุกปี A1 ก็ทะลุไป 4900 บาทแล้ว ไปเรียนซ้ำฟรีอีกรอบ ซึ่งในใจเราก็ไม่อยากจะไปเรียนอยู่แล้วมั้งครับ วันสอบก็ต้องเสียเวลาเข้ากรุงเทพอีก ทุกอย่างคือการเสียเงินทั้งหมด เอาและครับผมแค่อยากจะบอกว่า ถ้าเราคิดว่าเราสามารถสอบผ่านได้ ก็ให้เราตั้งใจเรียนตั้งแต่ต้นไปเลย มันจะไม่ต้องมาเสียเวลาทีหลัง ความรู้ทั้งหมดนี้ได้เรียบเรียงโดย เรียนภาษาเยอรมันพัทยา