วิธีการ "ฟัง" ให้รู้เรื่อง

[ฟัง-hören]

ฟังยังไงให้เข้าใจ

เรื่องของการฟังนะครับ ผมขอบอกเลยเเล้วกันว่า ฟัง เนียเป็นอะไรที่ยากในการเรียนภาษาเยอรมัน ลำดับต้นๆ เลย มันต้องใช่เวลาซึมซับนาน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียนที่เก่ง หรือจบสูงๆ ถึงปริญญาเอก พอมาถึงชั่วโมงในการฟังเเปลกเเต่จริงครับ เพราะมีปัญหากันหมดคือฟังไม่เข้าใจ บ้างคนก็บอกว่า เสียงเร็วเกินไป พูดไม่ชัดบ้าง เอาจริงๆ (เสียงมันก็ไม่เร็วเกินไปนะ ส่วนพูดก็ยังฟังเข้าใจอยู่) เเต่ที่เราพูดเช่นนี้ก็เพราะว่าหูของเรามันยังไม่เคยชินกับเสียงที่ใหม่ พอรู้อย่างนี้เเล้วเราต้องไปฝึกฟังบ่อยๆ ให้หูเราเคยชินกับเสียงพวกนี้เสียก่อน

อ้าว...เเล้วจะให้ฝึกฟังกันยังไงละ? มันมีวิธีอยู่ เราสามารถฟังได้ดีขึ้นในระดับหนึ่งเลย ผมได้ทำการอธิบาย ไปเเล้วในตอนเเรก คือเรียนรู้จากใน ช่องยูทูป เนียเเละครับ เพราะมันมี Audio Book (เสียงคนอ่านให้เราฟัง) ความเป็นจริงเเล้วมันอาจจะเป็นหนังที่เราชอบก็ได้ใน Netflix เเต่ขอเป็นการออกเสียงพากย์ภาษาเยอรมันเเละให้เราไปเปิด ซับไทเทิล เป็นภาษาไทยเอาก็ได้ครับ ปกติเเล้วถ้าให้จับกันมานั่งฟังเลย จริตเราอาจจะไม่ชอบโดยตรง ก็เลยต้องหลอกล่อใจเราให้ไปนั่งดูหนังที่เราชอบดีกว่าไหม? อะไรประมาณเนียเเละครับ

พอเราได้ฟังไปสักระยะหนึ่ง ให้สังเกตุดูตัวเราเองด้วยว่าได้เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดกันไหม? ถ้าให้ดีมันต้องวัดจากตัว ข้อสอบ A1 ชุดใหม่ ที่เรายังไม่เคยทำ เพราะว่ามันจะมีในการตั้งคำถามเราด้วย ซึ่งเราจำเป็นต้องอ่านคำถามให้เข้าใจก่อนด้วยนะ เเล้วไปฟังเสียงที่หลัง จงจำเอาไว้ว่าเสียงนี้ของจริงตลอด ส่วนคำถามมันจะหลอกเรา จากข้อสอบฟัง มันจะมี 15 ข้อ เราไม่ควรที่จะผิดเกิน 5 ข้อ ถ้าเกินกว่านี้ ถือว่าเยอะไปเเล้ว เเละเราก็ยังไม่เข้าใจ คำว่า คีย์เสียง

มีอยู่ 2 เหตุผล ที่เรายังไม่รู้เรื่อง อย่างที่ 1 คือได้คำศัพท์ เพราะอ่านประโยคคำถามรู้เรื่อง เเต่ยังผิดเยอะในข้อสอบ A1 เเก้ด้วยวิธี ฟังให้มากขึ้น เพราะที่สังเกตุดู ผมว่ายังฟังน้อยไป อย่างที่ 2 อ่านประโยคคำถามไม่เข้าใจ อันนี้หนักสุดเเละ เพราะเรายังไม่ได้คำศัพท์หรือเเปลไม่ละเอียด เเก้ด้วยวิธี จดคำศัพท์ตัวใหม่ออกมาจากข้อสอบโดยตรง เเละคำศัพท์ที่มีให้ไปในหนังสือเล่มนี้เท่านั้น อยู่หน้า 132 -152 เเละถ้าว่างๆ ลองทำข้อสอบตัวใหม่ๆ เสริมอีกหลายๆชุดด้วยกัน ผมเชื่อว่าการฟังของเราจะดีขึ้นเเน่นอน

วิธีในการจับหา คีย์ เสียง

เพราะ คีย์เสียง มันคือคำตอบของการเข้าใจในการฟังนั้นเองครับ มันจะคล้ายๆกันมาก ถ้าผมบอกทุกคนว่าลองไปฝึกเหมือนร้องเพลงเอา เเต่ไม่จำเป็นต้องร้องออกมาเป็นเสียง เเต่ให้เราจับคีย์เสียง ให้ได้ ตามผมมานะครับ สมมุติ ผมถามเราว่า ชอบร้องเพลงอะไร? ชอบ ค่ะ/ครับ ร้องเพลง ใจสั่งมา ของพี่เสกโลโซ คราวนี้ผมถามกลับไปว่า เวลา มีคนมาร้องเพลง ใจสั่งมา ให้เราฟังเนีย มีบ้างจังหวะเรารู้ไหมว่า เขาร้องผิดคีย์?! นักเรียนก็จะบอกว่า รู้ ที่เรารู้เพราะเราเคยฝึกร้องมาก่อนหน้านั้นไง เสียงขึ้นลง พร้อมดนตรี เราสามารถ จับจะหวังมันได้ ถูกไหมครับ เนียเเละครับมันคือจุดเข้าออก ของ คีย์เสียง ที่เป็นเฉลยของตัวมันเอง ในข้อสอบทุกชุดมีหมด ไม่ว่าจะเป็นตั้งเเต่พื้นฐานจนถึงระดับสูง เเต่เราจำเป็นต้องซ้อมฟังบ่อยๆ เพื่อให้เกิดความเคยชิน ผมยังไม่เเน่ใจว่าทุกคนสามารถเข้าใจในสิ่งที่ผมได้อธิบายไหม? ลองอ่านไปเรื่อยๆ ก่อนนะครับ

ถึงตรงนี้เเล้วใครจะมาร้อง ผิดๆ ถูกๆ ไม่ได้ เราจะรู้หมด เเละผิดๆ ถูกๆ เนียเเละ มันก็คือ "เฉลย" ที่มาในข้อสอบเสียง Hören นี้เองครับ หรือ เสียงที่เป็นพวก เเกะดำ เสียงที่ผิดปกติ ในเวลาเขาคุยกัน พวกนี้่จะเด่นกว่าเพื่อน เเละ เป็นเสียงที่เป็นคำ "ตอบ" ดังเช่นตัวอย่างนี้ทั้งหมด:

*ขอร้อง *อ้อนวอน *สงสัย *คอนเฟิร์ม

บ้างท่านอาจบอกว่า อ้าว...ฉันไม่ได้ไปสอบ A1 สักหน่อยจำเป็นไหมที่ต้องรู้พวกนี้ ผมก็จะตอบว่าไม่จำเป็นเลย เเต่ถ้าเราต้องการพัฒนาในการฟังให้ดีขึ้นเเละเข้าใจมัน ในใจลึกๆ ของผมก็จะบอกกับทุกคนว่า มันเริ่มตั้งเเต่ตรงเนียเเละ หาคีย์เสียงให้เจอ เพราะมันเป็นหัวใจหลักในการ ฟัง อย่างถูกวิธี อย่างลืมใส่หูฟังกันด้วยนะ มันจะตัดเสียงรบกวนออกเเละทำให้เราได้ยินอย่างมีประสิทธิภาพ เเละหา คีย์เสียงได้ง่ายขึ้น

สำหรับท่านที่ยังจับคีย์เสียงไม่ได้นั้น ก็เท่ากับว่าท่านยังเป็นผลไม้ที่ดิบอยู่ มันยังไม่สุข คือเราต้องเร่งทำให้มันสุขให้ได้ มันมีอีกวิธีหนึ่งที่ผมเเนะนำสำหรับทุกท่าน ก็คือเราต้องเปลี่ยนสถานที่ฟัง คือว่าไม่ใช่ที่เก่าที่เราเคยทำการบ้านเป็นประจำ เราอาจจะเคยทำที่ โซฟา ในบ้าน เเต่ตอนนี้มันต้องเปลี่ยนเเล้ว จะที่ไหนก็ได้เเต่ไม่ใช่ที่เก่า บ้างครั้งเราอาจจะต้องอยู่คนเดียว เพื่อให้มีสมาธิที่ดี มันต้องเงียบจริงๆ เพื่อให้เราไปจับคีย์เสียงให้ได้ ก็คือจบเเล้วครับ เราไม่ต้องจำเป็นฟังนาน หรือ หลายชั่วโมง มันไม่ใช่อย่างนั้น บ้างคนอาจจะใช้เวลาอีกไม่นาน ก็จะเข้าใจเรื่องคีย์เสียงเเล้ว เอาเเค่เข้าใจรู้เรื่องเเค่ คีย์เดียวก็ใช้ได้เเล้วละครับ เหมือนเราจับทิศทางลมเป็น เเต่ไม่เห็นลม เเต่ก็ยังรู้ว่าลมพัดมาจากไหน เเบบนี้เป็นต้น อย่าลืมนะครับ คีย์เสียงไม่สามารถเห็นด้วย ตา หรือ จับต้องด้วยมือ มันต้องใช้ความรู้สึกของเราเข้าไปสัมผัสมัน พอเราเข้าใจในเรื่องของคีย์เสียงเเล้ว อีกหน่อยพอเราเรียนต่อสูงขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็น A2 ถึง C2 เราก็จะเริ่มเข้าใจมันเเล้วครับ เพราะหลักการมันจะเหมือนกันทั้งหมด ความรู้ทั้งหมดนี้ได้เรียบเรียงโดย เรียนภาษาเยอรมันพัทยา