รู้ก่อน "เรียน"

 

[รู้ก่อนเรียน]

รู้หลักการเรียน สำคัญมากกว่าหลักสูตร คือการเข้าใจ ต้องรู้ว่าเรียนยังไงให้เข้าใจ ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมาคือการประสบความสำเร็จในการเรียนรู้นี้เอง โครงสร้างในการเรียนรู้นั้น ผู้สอนต้องเข้าใจมันเป็นอัดดับเเรกก่อน เเล้วค่อยซอยย่อย เพื่อที่จะเอาไปสอนให้กับลูกศิษย์ต่อไป เทคนิคเเละประสบการณ์ ในการสอนนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณครูทุกท่าน ด้วยเช่นกัน เเต่ละท่านก็คงมีวิธีที่ไม่เหมือนกันอยู่เเล้ว เเต่ที่เเน่ๆ จะขาดไม่ได้เลยคือการเอาใจใส่ รู้ก่อนเเละเห็นก่อนทุกครั้งในศักยภาพของนักเรียนเเต่ละท่านที่มาเรียน เพื่อหาหนทางในการปรับเปลี่ยนทิศทางในการเรียนรู้ให้คมขึ้น เร็วขึ้น ชัดเจนขึ้น เป็นต้นไปนะครับ ผมบอกได้เลยว่าทักษะเเบบนี้อาจารย์ทุกท่านสมควรที่จะต้องมี เพื่อเอามาแก้ไขสถานการณ์ในระบบการสอนของตัวท่านนั้นเอง เรื่องจริงที่ไม่มีใครบอก คนเรามันดูกันออกอยู่เเล้วครับ ไม่ใช่เเค่เราดูนักเรียนออกอย่างเดียว ส่วนนักเรียนเขาก็ดูครูออกเช่น คือเขาอาจจะเเค่ไม่พูดเท่านั้นเอง 555 ใจเขาใจเรานะครับ อย่าทำให้นักเรียนเเม้กระทั้งต้องคิดว่า "ฉันมาเรียนถูกที่หรือป่าวน้อ" ส่วนนักเรียนนั้นก็ต้องตั้งใจเช่นกัน เราคงได้ยินคำว่า ตบมือข้างเดียวมันจะไปดังได้ไง


การ "รู้หลักการเรียน" มันเป็นวิธีรู้เอาไปปรับเเต่งให้เกิดประโยชน์กับตัวนักเรียนเอง นักเรียนเเต่ละท่านจำเป็นต้องรู้ตัวเราเองก่อนเลยว่า "ฉันจะจดจำอย่างไรให้ขึ้นใจ" ไม่ว่าจะเป็นการ ฟัง อ่าน เขียน พูด ซึ่งมันก็หนีไม่พ้นกับการที่จะต้องทำอะไรเเบบซ้ำๆ เดิมๆ เช่น อาจจะต้องฝึกเขียนลงสมุดให้ตัวเราเองเพื่อให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้น ตามฉบับของตัวเราเอง อ่านบทความหรือประโยคนั้นๆ ให้ขึ้นใจ หรือ ฟังเสียงบ่อยๆในชุดข้อสอบ ฟัง เพื่อให้เราเข้าใจในภาษาของต้นฉบับได้เร็วขึ้น เเบ่งเวลาการเรียนรู้ให้กับตัวเราเอง เพราะเเต่ละท่านใช้เวลาไม่เท่ากันอยู่เเล้ว ถ้าพูดเป็นภาษาชาวบ้าน มันก็คือการบ้านเนียเเละครับ ที่เราต้องทำกัน ถ้าไม่คิดที่จะทำมัน โอกาสที่เราจะเป็นผู้เเพ้ ยังมีสูงเลยทีเดียว


เพราะฉะนั้นเราอาจจะต้องตั้งคำถามตัวเราเองก่อนเสมอว่า จะมาเรียนเพื่ออะไร? ซึ่งถ้าเราไม่ได้คำตอบนี้ ก็จะไม่มีประโยชน์กับตัวเราเอง ถ้าได้คำตอบเเล้ว อย่างน้อยเราก็จะเห็นจุดเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งเราจำเป็นต้อง โฟกัส มัน บทความเเบบนี้ผมได้เคยเขียนเอาไว้ให้เเล้ว เลื่อนดูโพสต์ด้านล่างได้เลย อ่านเเล้วมีประโยชน์ต่อทุกท่าน ผมก็เขียนไป

จากที่ไม่มีพื้นเลย

เริ่มจากศูนย์ ก็ไม่เป็นไร เพราะส่วนมากเเล้วที่เจอก็ไม่มีใครรู้ภาษานี้มาก่อน เป็นอะไรที่กังวลต่อหลายๆ ท่านที่มาเรียน โดยเฉพาะเวลาไปสอบ A1 กลัวว่าจะสอบไม่ผ่าน ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นกันทุกคนรวมทั้งผมด้วยเช่นกัน มันเป็นเรื่องปกติ เเต่ผมก็ยังมองในเเง่บวกอยู่ เพราะความกลัวเนียเเละจะทำให้เราระมัดระวังตัวมากขึ้น เเละไม่ประมาทเกินไปกับการเรียนรู้นั้นเอง ความจน เเพ้ความขยัน การที่เราเรียนไม่เก่ง ก็อย่างเพิ่งด่วนสรุปคิดว่าความสามารถเราไม่มีพอ ก็ให้เรารู้เอาไว้ว่า เรายังขึ้เกียจอยู่เเละยังไม่จริงจังมากพอ

ความซับซ้อนจริงๆ เเล้วในภาษานี้ มันมีอยู่เเน่นอน ไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหน ต้องค่อยๆ เรียนรู้กันไป จะเรียนในระยะสั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจก็อาจจะยังยากอยู่สำหรับหลายๆ ท่าน เเต่ถ้าเราได้ปูพื้นฐานเบื้องต้นได้ดี ให้เเน่นก่อน โดยเข้าใจหลักการเเละวิธีเรียน ยังไงให้เข้าใจ ก็น่าจะเป็นเหตุผลพอที่เราเริ่มต้นเรียนได้ดี ก้าวเเรกดี ก้าวต่อไปก็จะดีตาม มันจะกลายเป็น Domino Effect เเละก็ด้วยเช่นกัน สำหรับก้าวเเรกที่ไม่ดี ก้าวต่อไปก็จะไม่ดีตาม ส่วนตัวผมเห็นพฤติกรรม ทั้ง 2 อย่างนี้เป็นประจำ วิธีเเก้ให้เราทำเกินกว่าคนอื่นอยู่เสมอ พยายามใส่ใจเเละทบทวนในสิ่งที่เรียนไปตลอดทุกครั้ง

เรื่องสภาวะจิตใจผมยกให้เป็นปัญหาต้นๆ สำหรับทุกคน เราต้องมองภาพให้ออกสำหรับในการเรียนนี้ มันเปลี่ยนชีวิตเราไหม? ต้องหาคำตอบให้กับตัวเราเองก่อนนะครับ "ฉันจะไปเรียนภาษาเยอรมันเพื่ออะไร" หรือทำสิ่งอะไรก็ได้ที่เรากำลังเรียนรู้ หรือ ทำมันอยู่ เพื่ออะไร? ถ้าหาคำตอบให้กับตัวเราเองได้เเล้ว เราก็จะมีจุด Focus เป้าหมายมันจะเเม่น ขึ้น เพราะรู้ในสิ่งที่ตนทำนั้นเอง พออยู่ในระหว่างทางการเรียนรู้เเล้ว ให้เราพยามสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเราเองอยู่เสมอ พยายามหาข้ออ้างเพื่อให้เราคิดบวกอยู่ เสมอ ถ้าถึงตอนนี้เมื่อไร ไม่มีใครฉุดคุณอยู่เเล้วครับ โชคดีครับท่าน ความรู้ทั้งหมดนี้ได้เรียบเรียงโดย เรียนภาษาเยอรมันพัทยา